หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ architecture40
หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี (view more...)
Buddha Image at Wat Pa Rerai Worawihan Changwat Suphanburi
(July 2011)
หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี (view more...)
Buddha Image at Wat Pa Rerai Worawihan Changwat Suphanburi
(July 2011)
หลวงพ่อโตพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุพรรณบุรี ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนมาลัยแมน (กม.ที่ ๑๖๑ ทางหลวงหมายเลข ๓๒๑) ท้องที่ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เป็นพระปูนปิดทองขนาดใหญ่ปางป่าเลไลย์ สูงประมาณ ๒๓.๕๐ เมตร เป็นศิลปะสมัยอู่ทอง ตามพงศาวดารกล่าวว่า พระเจ้ากาแลโปรดให้บูรณะวัดป่าเลไลย์ในปี พ.ศ. ๑๗๔๒ ดังนั้นแสดงว่าวัดป่าเลไลย์ได้สร้างก่อนหน้านั้นแล้วนานพอสมควรจนทรุดโทรมจึงได้มีการบูรณะ (เดาเอาเอง) บางตำราว่า เดิมหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปที่สร้างไว้กลางแจ้ง เป็นปางปฐมเทศนา ประทับนั่งห้อยพระบาท พระกรสองข้างหายไป ผู้ที่มาบูรณะได้ทำเป็นปางป่าเลไลย์ตามสมัยนิยม ให้หัตถ์ซ้ายคว่ำบนชานุ ส่วนหัตถ์ขวาวางหงายบนชานุในท่ารับของถวาย วิหารที่สร้างครอบองค์หลวงพ่อโต สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ เพราะมีตราพระราชลัญจกรของพระองค์ท่านประดับอยู่ที่หน้าบันของวิหารหลวงพ่อโต ประวัติจะถูกผิดอย่างไร คงต้องยกให้กรมศิลปากรคิด
สภาพในปัจจุบันหลวงพ่อโตประทับนั่งห้อยพระบาทในวิหารที่ด้านหน้ามีตราประจำรัชกาลที่ ๔ แห่งราชวงค์จักรีที่หน้าบัน ด้านหลังมีช่องลม ๓ ช่อง รอบวิหารมีระเบียงยาวล้อมรอบ ที่ฝาผนังระเบียงมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องขุนช้างขุนแผนเรียงราย (น่าจะโดยรอบ วันนั้นมีพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล เลยไม่สามารถเดินสำรวจได้ทั่ว แม้แต่องค์พลวงพ่อโตก็ได้ถ่ายภาพนิดเดียว ท่านกรรมการท่านดุเอาว่าไปรบกวนพิธีมงคลของท่าน) วัดป่าเลไลย์นี้มีบริเวณกว้าง มีโบสถ์ มีวิหารอีกแต่ไม่ได้ไปดูเพราะเวลาน้อย เลยไม่มีข้อมูลมาฝาก แม้แต่เรือนไทยหมู่ของขุนช้างก็ไม่ได้ไปดู ไม่เห็นเขามีป้ายบอกรายละเอียดว่ามีอะไรที่ควรจะไปดูบ้าง (หรือมีแต่ไม่เห็นก็เป็นได้) เห็นแต่ร้านค้าที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เลยมัวแต่ดูสินค้าเพลินไป