แมวสองพี่น้อง ความจริงจะใช่พี่น้องแม่เดียวกันหรือเปล่าไม่ทราบได้ ทราบแต่ว่าสองตัวนี้เป็นแมวบ้านเดียวกัน เจ้าของเพิ่งนำมาเป็นสมาชิกในซอย เจ้าของมีธุรกิจต้องออกจากบ้านทุกวัน กลับดึก-ออกเช้า สองพี่น้องเลยไม่นิยมบ้านตัวเอง พยายามขอเข้าเป็นสมาชิกกับแมวบ้านอื่น ๆ อยู่เสมอทั้งที่ไม่ใคร่จะประสบความสำเร็จ ตัวพี่สีเหลืองเป็นผู้ชาย (เพศผู้ คำว่าผู้ชายใช้กับมนุษย์) พยายามผูกมิตรกับเจ้าบ้าน โดยลงทุนนอนหงายท้องงอก่องอขิงให้เจ้าบ้านร้องขู่ ตบตี แต่ไม่สำเร็จเจ้าบ้านไม่ยอมต้อนรับอยู่ดีวันหลัง ๆ จึงหายไป เข้าใจว่าคงแสวงหาบ้านอื่น ๆ ต่อไป ตัวน้องเป็นเด็กหญิง (แมวเด็กตัวเมีย เด็กหญิงใช้กับมนุษย์) แมวเจ้าบ้านไม่ค่อยรังเกียจ ขู่แฟ่นิดหน่อยแล้วถอยหนีออกไป เป็นการบอกกล่าวทำนองปราม ๆ ว่า แกอย่ามายุ่งกับฉันนะ ดังนั้นจึงยังเห็นตัวน้องป้วนเปี้ยนอยู่ บางทีก็ทำเนียนเข้าพวกกับเขาตอนทีเผลอเสียเลย ที่เล่ามานี้เพื่อจะยืนยันว่า แมวรักที่อยู่มากกว่าคน (เจ้าของ) แมวสองตัวนี้ไม่รักบ้านของตัวเอง เพราะเป็นที่ใหม่ยังไม่คุ้นเคย ประกอบกับเจ้าของไม่อยู่บ้านจึงรู้สึกชีวิตไม่มั่นคงต้องหาที่ใหม่ แมวที่รู้สึกเช่นนี้จะเป็นแมวที่น่ารำคาญมากสำหรับคนที่ชอบหมาและเกลียดแมว เพราะแมวจะตื๊อร้องพันแข้งพันขาน่ารำคาญอย่างยิ่ง แต่หากได้ที่อยู่ที่แน่ใจในความมั่นคงแห่งขีวิตแล้วจะคุ้นคน ไม่วิ่งหนี เรียกก็จะมาหา (ถ้าอยู่ในอารมณ์อยากมา) แต่ถ้าอยู่ในอารมณ์ไม่อยากก็จะทำคอตั้งหูทวนลมนิ่งเฉยเสีย มีเพียงหางที่ฟาดพื้นไปมา บอกให้รู้ว่า ได้ยินแล้ว หากเรียกมาก ๆ และคนเรียกเป็นคนที่แมวรักเป็นพิเศษก็จะค่อย ๆ นวดนาดลุกขึ้นมาหาในที่สุด นิสัยเช่นนี้ผิดกับหมา หมาจะถือคน (เจ้าของ) เป็นสำคัญ เมื่อได้ยินเสียงเรียกจะมาทันที

แมวสองศรีพี่น้องนี้เชื่องคนบอกให้ทราบว่าโตขึ้นมากับคน หากเป็นแมวที่แม่แมวเลี้ยงเองจะเปรียวและไม่ไว้ใจคนภาพนี้ถ่ายไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ ถ่ายยากมากเพราะเป็นแมวเด็กไม่ใคร่อยู่นิ่ง ดีหน่อยที่ไม่กลัวกล้อง