ตามที่ได้เคยพูดถึงดอกบานไม่รู้โรยไปใน nature 111 ว่านำมาร้อยมาลัยบ้าง จัดประดับตกแต่งพานไหว้ครูบ้าง นั้น วันนี้เรามาพูดถึงดอกรักที่เรานิยมนำมาใช้ประโยชน์แบบเดียวกัน ดอกรักนี้เดิมเคยเข้าใจผิดว่า ยางรักสีดำ ๆ ที่เขานำไปทาองค์พระพุทธรูปเพื่อให้เป็นกาวติดทองคำเปลวให้แน่นนั้น ใช้ยางของดอกรักนี้ มาได้ความรู้ตอนที่เสนอรูปของผลต้นน้ำเกลี้ยงหรือต้นรักใน nature 66 ว่าเป็นต้นไม้คนละสายพันธุ์กันเลยทีเดียว ตอนนั้นก็ได้ติดค้างอยู่ในใจว่าจะต้องนำเสนอเรื่องดอกรักที่เข้าใจผิดนี้ให้จงได้ วันนี้บรรลุเป้าหมายแล้ว

ความจริงแล้ว ต้นรักกับต้นดอกรักอยู่ในวงศ์เดียวกัน คือวงศ์ Anacardiaceae โดยต้นรักหรือต้นน้ำเกลี้ยงอยู่ในสกุล Gluta ส่วนต้นรักหรือต้นดอกรักที่ thaiphotosite เรียกเอาเองเพื่อไม่ให้สับสนนั้นอยู่ในสกุล Calotropis มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Calotropis gigantea R. Br. มีชื่อสามัญว่า Crown flower หรือ Giant Indian milkweed มีชื่อพื้นเมืองว่า ป่านเถื่อน ปอเถื่อน (เหนือ) และรักดอก (กลาง) เป็นพรรณไม้พุ่มยืนต้นมาจากต่างประเทศ (ข้อมูลจากพจนานุกรมสัตว์และพืชในเมืองไทย วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ๒๕๓๗)

จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๒๕ กล่าวว่า ดอกรัก เป็นคำนาม หมายถึงลวดลายชนิดหนึ่ง (มีรูปให้ดูด้วยนะ เป็นรูปเหมือนเอาดอกรักมาผ่าตามยาวแล้วเอาเรียงต่อกันขึ้นด้านบน แบบการร้อยมาลัยดอกรักนั่นแหละ) ส่วนคำว่า รัก เป็นชื่อไม้พุ่มชนิดหนึ่ง ดอกใช้ร้อยกรอง มี ๒ พันธุ์ คือ พันธุ์ดอกลา และพันธุ์ดอกซ้อน ยางเป็นพิษ และหมายถึงชื่อต้นไม้ขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งที่มียางเป็นพิษ ใช้ลงพื้นหรือทาสิ่งต่าง ๆ เรียกว่า น้ำรัก ต้นไม้ใหญ่นี้อยู่ในวงศ์เดียวกับต้นดอกรัก แต่เป็นคนละสกุลคนละชนิดกัน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Melanorrhoea usitata Wall