โอ้! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ดอกบานไม่รู้โรยที่เราใช้ร้อยมาลัยกันอยู่อย่างแพร่หลายในปัจจุบันนี้จะเป็นพรรณไม้ล้มลุกจากต่างประเทศ ออกจะเป็นดอกไม้ที่เราใช้กันมาตั้งแต่นานนม อ่านเรื่องในรั้วในวังทีไรก็นึกถึงแต่ภาพสาวชาววังนั่งทำขนม จีบผ้าร้อยมาลัย ซึ่งในมโนภาพก็จะมีดอกไม้หอม ๆ รวมทั้งดอกบานไม่รู้โรยด้วย หรือว่าเราเข้าใจผิดไปเอง สมัยนั้นไม่ได้ใช้ดอกบานไม่รู้โรย แต่สมัยเด็ก ๆ จำได้นี่นาว่า เวลาจัดพานพุ่มงานวันไหว้ครู ก็จะใช้ดอกบานไม่รู้โรยและดอกรักเป็นสำคัญ เลยนึกเอาว่าสาวชาววังสมัยก่อนใช้ดอกบานไม่รู้โรยไปด้วย คงต้องไปหาข้อมูลอีกแล้วว่า ดอกบานไม่รู้โรยนี้เข้ามาได้อย่างไรและตั้งแต่เมื่อใด ได้ความอย่างไรจะนำมาเล่าให้อ่านกัน ไม่รู้ว่าดอกรักจะมีกำเนิดเป็นต่างชาติไปกับเขาด้วยหรือไม่

บานไม่รู้โรยจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๒๕ กล่าวว่า เป็นไม้ล้มลุกจัดอยู่ในวงศ์ Amaranthaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gomphrena globosa Linn. (มีชื่อสามัญ Bachelor's button และชื่อพื้นเมือง ดอกสามเดือน (ใต้)และตะล่อม (เหนือ) จากพจนานุกรมสัตว์และพืชในเมืองไทย วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ๒๕๓๗) ลำต้นค่อนข้างแข็งแตกแขนงเป็นพุ่มเล็ก ๆ ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ดอกกลม ๆ มีสีขาว ชมพู หรือม่วงแดง ดอกทนอยู่ได้นาน 

เที่ยงบูรณธรรม กล่าวว่า บานไม่รู้โรยมี ๓ ชนิด คือ บานไม่รู้โรยที่กล่าวมาแล้วข้างต้น บานไม่รู้โรย (เหนือ) และบานไม่รู้โรยป่า โดยบานไม่รู้โรยและบานไม่รู้โรยป่าเป็นไม้สกุลเดียวกันแต่ต่างชนิดกัน คือ บานไม่รู้โรยป่า มีชื่อว่า Gomphrena celosioides Mart. ส่วนบานไม่รู้โรย (เหนือ) เป็นไม้ต่างวงศ์ โดยจัดอยู่ในวงศ์ Plumbaginaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Limonium sinuatum (L.) Mill ทั้ง ๓ ชนิดเป็นพรรณไม้ล้มลุกจากต่างประเทศ เสียดายว่า ท่านไม่มีรูปประกอบให้ดูเลยไม่รู้ว่าทั้ง ๓ ชนิด ต่างกันอย่างไร