กล้วยบัวอยู่ในวงศ์ และสกุลเดียวกับกล้วยชนิดต่าง ๆ ที่เรานำมารับประทานกันในปัจจุบัน โดยกล้วยที่เราทานกันนั้นเป็นกล้วยที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของการผสมพันธุ์ภายในชนิดเดียวกัน หรือการผสมข้ามชนิดกันระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี ทำให้เกิดมีพันธุ์ต่าง ๆ ถึง ๕๐ ชนิด ตัวอย่างเช่น กล้วยไข่ กล้วยเล็บมือนาง กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำไทย และกล้วยหอมชนิดต่าง ๆ (รายละเอียดหาอ่านได้จาก อนุกรมวิธานพืช อักษร ก ของราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๗) สำหรับกล้วยบัวมีอยู่ ๒ ชนิด คือ กล้วยบัวสีชมพู มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Musa ornata Roxb. และกล้วยบัวสีส้ม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Musa laterita Cheesman โดยกล้วยทั้งหมดอยู่ในวงศ์ Musaceae กล้วยเป็นไม้ล้มลุก ทุกส่วนมียาง มีเหง้า โดยสกุล Musa เหง้าจะมีตาสามารถแตกหน่อได้ ส่วนสกุล Ensete เหง้าไม่แตกหน่อ กล้วยสกุล Ensete นี้จะมีลำต้นเทียม (ส่วนที่โผล่พ้นพื้นดินหรือหยวก ซึ่งเป็นกาบใบที่เรียงซ้อนกันและอัดแน่น) อวบใหญ่ กาบลำต้นเรียงหลวม ๆ ได้แก่ กล้วยผา และกล้วยนวล

กล้วยบัวสีชมพูมีลำต้นเทียมสูงไม่เกิน ๒ เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า ๑๕ เซนติเมตร ใบและก้านใบสีเขียว ใบตั้งขึ้น ดอกเป็นดอกช่อ ชี้ตั้งขึ้น ก้านช่อดอกไม่มีขน ใบประดับสีชมพูอมม่วง ลักษณะคล้ายกลีบดอกบัว กลีบรวมใหญ่ ไม่มีสี ผลรูปรีแกมรูปขอบขนาน เป็นเหลี่ยม ปลายและโคนเรียว ผิวเปลือกเรียบ หวีหนึ่งมีแถวเดียว เรียงไม่เป็นระบียบ แตกหน่อชิดต้นแม่

กล้วยบัวสีส้มมีลักษณะคล้ายกล้วยบัวสีชมพู แต่สีของใบประดับสีชมพูอมส้ม แตกหน่อห่าง ๆ กัน ผลรูปคล้ายทรงกระบอกเป็นเหลี่ยม หวีหนึ่งมีแถวเดียว เรียงเป็นระเบียบ กล้วยบัวสีส้มมีชื่อพื้นเมืองว่า กล้วยแค่ (เหนือ) กล้วยบัว และกล้วยแวก (แม่ฮ่องสอน) สำหรับกล้วยบัวสีชมพูมีชื่อเดียว คือกล้วยบัว