ดอกแก้ว nature80
ดอกแก้ว กรุงเทพมหานคร (view more...)
Orange jasmine or Andaman satinwood in Bangkok
(May 2011)
ดอกแก้ว กรุงเทพมหานคร (view more...)
Orange jasmine or Andaman satinwood in Bangkok
(May 2011)
ต้นดอกแก้ว ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง ๑๐ เมตร ต้นมีเปลือกสีเทา แตกเป็นร่อง ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ใบย่อย ๕-๙ ใบ เรียงสลับกันจากเล็กไปหาใหญ่ ใบย่อยที่ปลายเป็นรูปไข่หรือรูปรี มีสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบมีต่อมน้ำมัน มีขนาดกว้าง ๑-๓ เซ็นติเมตร ยาว ๒-๗ เซ็นติเมตร ปลายแหลม โคนแหลมหรือสอบ ช่อดอกแบบช่อกระจะสั้น ๆ ออกตามง่ามใบ ก้านช่อดอกยาว ๑-๒ เซ็นติเมตร ดอกสีขาว กลิ่นหอม โดยเฉพาะตอนกลางคืนและตอนเช้ากลิ่นจะรุนแรงมาก (จากประสบการณ์) ก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็กมาก ๕ กลีบ กลีบดอก ๕ กลีบ ร่วงง่ายมาก (น่าจะเป็นเพราะแก้วออกดอกเป็นพวงและกลีบ ดอกจะร่วงกราวเมื่อสัมผัส จึงได้ชื่อว่า แก้ว คือแตกง่าย ข้อนี้ thaiphotosite คิดเอาเอง ตำราไม่ได้พูด) ผลของต้นแก้วเป็นแบบผลมีเนื้อ ผลรูปรีหรือรูปไข่ ยาวประมาณ ๑ เซ็นติเมตร เมื่อแก่มีสีแดงอมส้ม มีต่อมน้ำมันเห็นชัดเจน เมล็ดรูปไข่ยาวประมาณ ๙ เซ็นติเมตร (เมล็ดของต้นแก้ว thaiphotosite ยังไม่เคยเห็น ต้นของเพื่อนบ้านหน้าบ้านมีดอกมากมาย แต่ยังไม่พบเมล็ด ไม่กล้าเข้าไปมองมาก ตูบเห่าเก่ง) ต้นแก้วมีเขตกระจายพันธุ์ทั่วทุกภาคในประเทศไทย ในต่างประเทศพบในจีน อินเดีย ญี่ปุ่น พม่า มาเลเซียและภูมิภาคอินโดจีน นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ตามอนุกรมวิธานพืชของราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๗ ว่าสมัยหนึ่งใช้ทำไม้เท้าและแกนเพลาเกวียน ต้นดอกแก้วจัดอยู่ในวงศ์ Rutaceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Murraya paniculata (L.) Jack มีชื่อสามัญ Andaman satinwood, Chinese box-wood และ Orange jasmine มีชื่อพื้นเมืองหลายชื่อ คือ แก้ว แก้วขาว แก้วขี้ไก่ (ยะลา) แก้วพริก ตะไหลแก้ว (เหนือ) และจ๊าพริก (ลำปาง)
(ภาพเหล่านี้ถ่ายเมื่อ เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๔)