ซ่อมกันอีกแล้วครับท่าน ความผิดนี้จะจำใส่ใจไว้ให้จงดีเชียว จะได้ไม่เผลอทำผิดอีกขอรับ

ทับทิมเป็นพรรณไม้พุ่มจากต่างประเทศ ตามพจนานุกรมสัตว์และพืชในเมืองไทยของเที่ยงบูรณธรรม ๒๕๓๗ กล่าวว่า ทับทิมมี ๒ พันธุ์ด้วยกัน คือ ทับทิมที่มีชื่อพื้นเมืองว่า พิลาขาว พิลา (อีสาน) และ มะก๊อ (เหนือ) พันธุ์นี้จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Punica granatum Linn. ส่วนทับทิมที่เรียกว่า ทับทิมหนู หรือลิกัวลอ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Punica granatum Linn. var. nana Pers. เป็นไม้พุ่มจากต่างประเทศเหมือนกัน และจัดอยู่ในวงศ์ Punicaceae เหมือนกัน 

ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๒๕ กล่าวไว้ว่า เนื้อที่หุ้มเมล็ดของทับทิมนั้นมีสีแดงใสคล้ายพลอยทับทิม ดังนั้นคำว่า ทับทิมจึงมีความหมายอีกอย่างหนึ่งว่า พลอยสีแดงชนิดหนึ่ง หรือสิ่งที่มีลักษณะเป็นเกล็ดสีม่วงแก่ เมื่อละลายในน้ำ จะมีสีเป้นสีทับทิม เรียกว่า ด่างทับทิม เรียกหินที่มีสีคล้ายทับทิมในเครื่องนาฬิกาข้อมือว่า ทับทิม ขนมที่ทำด้วยแป้งมันใส่สีแดงเหมือนเม็ดทับทิม ต้มกินกับน้ำหวานว่า ทับทิมลอยแก้ว ถ้าทำด้วยแห้วหรือมันแกวหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ คลุกแป้ง ต้มกินกับน้ำหวาน เรียกว่า ทับทิมกรอบ พิมพ์ไปก็หิวทับทิมกรอบไป ยิ่งอากาศร้อน โฮ้ย! อร่อย หวานเย็นชื่นใจโก๋จริง ๆ

ทับทิมที่เป็นพลอยนั้น จัดเป็นแร่รัตนชาติชนิดหนึ่ง เป็นแร่คอรันดัม (corundum) ที่มีสีแดง ชนิดที่มีสีอื่นๆ เรียกว่า แซบไฟร์ เช่น สีน้ำเงินหรือสีฟ้า เรียกว่า ไพลิน (blue sapphire) สีเหลืองเรียกว่า บุศราคำ (yellow sapphire) สีเขียวก็เรียก เขียวส่องหรือเขียวมรกต (green sapphire) หากส่องเห็นสาแหรกโดยจะต้องเจียระไนรูปหลังเต่าเท่านั้นจึงจะเห็น ก็เรียก สตาร์แซบไฟร์ (star sapphire) อยากรู้มากกว่านี้ต้องหาอ่านเอาจาก พจนานุกรมแร่และอัญมณี ของราชบัณทิตยสถานเจ้าเดิม